กทม.เข้มอาคารเก่าไร้ระบบป้องกันไฟไหม้อาจถูกระงับใช้กทม.เข้มอาคารเก่าไร้ระบบป้องกันไฟไหม้อาจถูกระงับใช้

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่างรายงานว่า จากที่ได้มีเหตุการณ์อาคารที่พักอาศัยหรือที่พักแรม ถล่มจากปัญหาโครงสร้าง หรือพังยุบตัวด้วยเหตุต่างๆ และเกิดความเสียหาย กรณีเหตุอัคคีภัยเกิดขึ้น แต่ไม่มีช่องทางหนีไฟหรืออุปกรณ์ดับเพลิง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต นั้นเพื่อเป็นการป้องกัน และลดความเสียหายจากอุบัติเหตุต่างๆ ดังกล่าว ทางกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งหนังสือด่วน กำชับการทำงานของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ เข้มงวดการตรวจสอบอาคารมากยิ่งขึ้น โดยเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ ให้ปฎิบัติงานตามขั้นตอนต่างๆของกฎหมายควบคุมอาคารโดยเคร่งครัดในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตการก่อสร้างอาคารประเภทต่างๆ และไม่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวไปสร้างเงื่อนไขเรียกรับผลประโยชน์ หรือทรัพย์สินใดๆจากผู้ยื่นคำร้องก่อสร้างอาคารในทุกกรณี ทั้งนี้หากมีการร้องเรียนใดๆเกิดขึ้น ให้กทม.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ภายใน 30 วันโดยเมื่อพบพยานหลักฐานการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องหรือมีการทุจริตในขั้นตอนการพิจารณาตามกฎหมายควบคุมอาคาร หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาลงโทษทั้งทางวินัยและแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งด้วยนอกจากนี้ ในกรณีที่มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างไปแล้วหรือมีอาคารสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ก่อนการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคาร ให้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการตรวจสอบอาคารสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่

ด้านนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการกองควบคุมอาคาร สำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างก่อนการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 ในพื้นที่ มีประมาณ 1,400อาคาร ซึ่งอาคารส่วนใหญ่จะไม่มีการก่อสร้างระบบป้องกันอัคคีภัย ไม่มีบันไดหนีไฟ และระบบแจ้งเตือนเหตุอัคคีภัย ซึ่งกทม.จะ ส่งเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบ หากพบว่า ยังไม่มีการเพิ่มเติมระบบป้องกันอัคคีภัยตามกฎหมาย จะสั่งการให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว ทั้งนี้หาก กทม.สั่งการให้มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยในอาคารใดๆแล้ว แต่อาคารนั้นๆยังไม่ดำเนินการ กทม.ก็สามารถสั่งระงับการใช้อาคารนั้นๆต่อไปได้.





https://khawronn.blogspot.com/2016/06/blog-post_54.html